อีกหนึ่งบ้านน่ารักๆ จากนักเขียนและนักวาดภาพคนเก่ง ออกแบบตกแต่งกันเอง ออกมาสวยและเป็นเอกลักษณ์อย่างที่เราเห็น

เริ่มกันที่ห้องนอน เลือกใช้ผ้าม่านสีน้ำเงินเข้ม ที่หนาและมีน้ำหนัก ช่วยกันแสง ทำให้พักผ่อนได้เต็มที่แม้เป็นเวลากลางวัน ผิวมันฝุ่นไม่เกาะง่าย แต่มีลวดลายถักทอให้ความเป็นธรรมชาติ เข้ากับผนังและพื้นที่เป็นไม้

ส่วนของห้องน้ำซึ่งมีหน้าต่างเปิดโล่งไว้ชมวิวทิวทัศน์และระบายอากาศนั้น ก็สามารถใช้ม่านม้วนช่วยปิดและเปิดช่องตามที่ต้องการได้ เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว และไม่ต้องห่วงเรื่องการเปียกน้ำด้วย เรียกว่าสวยและฟังก์ชันครบเลยทีเดียว

ส่วนของห้องทำงาน เป็นมู่ลี่ไม้ชนิดแข็งแรงทนทาน สีของไม้ดูกลมกลืนไปกับสีของชั้นไม้รอบด้าน ตัดกับกับแผงปูนเปลือย ให้ห้องดูอบอุ่นขึ้นอีกเป็นกอง
ฟังก์ชันของมู่ลี่ไม้ ที่สามารถปรับรับจำนวนแสงที่ต้องการให้ลอดผ่านเข้ามาได้ตามต้องการ เหมาะมากๆ กับปริมาณแสงที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา
ทำให้การใช้งานในห้องนี้ สามารถนั่งทำงานได้ตลอดวัน ไม่ต้องกลัวแดดแยงตา หรือสะท้อนกับหน้าจอคอมพิวเตอร์เลย
การติดผ้าม่านหรือมู่ลี่นั้น เราไม่จำเป็นต้องติดทุกหน้าต่างหรือทุกห้องที่เรามี ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งาน หากหน้าต่างไหนวิวสวยๆ ไม่มีแดดจ้าๆ และไม่มีสายตาข้างบ้านมากวนใจ เป็นที่ส่วนตัว ก็สามารถเปิดโล่งๆ มองวิวทิวทัศน์ได้เต็มตา แบบนี้คงต้องบอกว่า บ้านหลังนี้ "หลงรักเลยค่ะ"

ขอบอกว่า "ปลื้ม" ลูกค้าสองท่านนี้มากๆ
ขอขอบพระคุณลูกค้าทั้งสองที่ไว้วางใจให้วิจิตรรัตน์ดูแลม่านเพื่อบ้านหลังสำคัญของคุณทั้งคู่นะคะ  
ขอบพระคุณอีกครั้งและอีกครั้งค่ะ

{gallery}curtain_portfolio/067_roundfingerchingching{/gallery}

ขอบคุณเจ้าของบ้านใจดี มีรสนิยม ที่ให้เราได้เอาภาพบ้านสวยๆ มาแบ่งให้ทุกคนได้ดูกันค่ะ
กับอาคารพาณิชย์ที่นำมารีโนเวทตกแต่งใหม่ สวยแบบลอฟต์ๆทั้งงานปูนเปลือย งานฉาบผนังสีเทา งานอิฐโชว์แนวเก๋ๆ งานไม้แบบเท่ห์ๆ ใช้สีสันทีตัดกันระหว่างเทาและส้ม อิฐและไม้ ปูนและเหล็ก ทำให้ได้บ้านสวยๆที่ลงตัวเป็นที่สุด

เมื่อมาถึงคิวของการเลือกผ้าม่านมาตกแต่ง
เราเลือกผ้าลินิน ซึ่งมีเนื้อผ้าที่เป็นแบบฝ้ายๆ ดิบๆ เพื่อให้ได้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและดิบ เข้ากับงานออกแบบของตัวตึก โดยเลือกเนื้อผ้าที่มีการทอโปร่งระดับหนึ่ง เพื่อไม่ให้บ้านรู้สึกทึบ ให้แสงลอดเข้ามาส่วนหนึ่ง ให้เป็นความรู้สึกที่เข้มแต่อ่อนโยน และเลือกสีครีมธรรมชาติ ตัดกับตัวผนัง เพื่อความโดดเด่น และทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ไม่ทึบจนเกินไป
ประกอบกับการใช้รางไม้สัก ที่เข้ากับพื้นไม้ และไม้แผ่นประดับที่กระจายตัวอยู่ทั่วอาคาร
พร้อมไม้จูงม่านไม้สัก ทำให้สะดวกในการปิดเปิดใช้งาน ไม่ต้องจับที่ตัวผ้าโดยตรง ทำให้ผ้าไม่หมองและไม่ช้ำ ผ้าม่านทิ้งตัวดิ่งตรงลงแตะพื้น ขนานไปกับเส้นเอ้าไลน์ของห้อง กลมกลืนและโดดเด่นไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้ยังใส่ลูกเล่นโดยการใช้หัวม่านสองจีบ แทนสามจีบ ให้ความรู้สึกที่ทันสมัยและสมดุลกัน อย่างลงตัว อย่ารอช้า เราไปชมภาพบ้านและผ้าม่านสวยๆกันเลยค่ะ ขอบคุณในความไว้วางใจให้เราดูแล อีกครั้งและอีกครั้งค่ะ

{gallery}curtain_portfolio/065_Loft{/gallery}

"อยากได้ผ้าม่านที่ทำให้บ้านดูสว่าง" เป็นคอนเซ็ปจากเจ้าของบ้านหนุ่มวิศวะ จุฬาฯ

ห้องนั่งเล่นจึงใช้ผ้าม่านสีโอรสให้บ้านดูมีสีสัน สว่างและสบายตา

ส่วนห้องนอนมาสเตอร์ คุณพี่ผู้หญิงของบ้านชอบวินเทจเลยถูกใจผ้าม่านลายดอกไม้สีชมพูแซมดอกไม้สีฟ้า พื้นสีครีมนวล

และห้องนอนสำหรับลูกสาวเป็นม่านสีชมพูมีลวดลายดอกไม้เล็กๆ น่ารักมากๆค่ะ

ถัดมาในส่วนของอีกห้อง เป็นม่านปรับแสงสีโอรสอ่อนๆ ให้บรรยากาศดูสบายๆ สงบๆ เหมาะจะใช้เป็นห้องพระหรือห้องทำงานก็ได้ค่ะ

ผลงานที่ออกมาก็ได้ตามคอนเซ็ปและถูกใจกันทั้งบ้านค่ะ

ขอขอบคุณอีกครั้งที่ไว้วางใจให้เราเป็นส่วนนึงที่ช่วยเติมความสว่างและสดใสในบ้านของท่าน

{gallery}curtain_portfolio/064_PassornWatcharapol{/gallery}

สวัสดีค่ะ ผลงานผ้าม่านวันนี้มาจากจังหวัดที่นิยมไปท่องเที่ยวกันจังหวัดหนึ่งซึ่งก็คือชลบุรึค่ะ

หมู่บ้านสมบูรณ์ทรัพย์เป็นบ้านสไตล์ไทย-บาหลี เฟอร์นิเจอร์และแบบบ้านเป็นแนวออกโทนธรรมชาติ เพื่อให้ได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายสบายๆ

ผ้าม่านที่เลือกใช้จึงไม่เลือกใช้สีที่ฉูดฉาดนัก แต่จะใช้เป็นโทนสีธรรมชาติเช่นกัน อย่างสีน้ำตาล สีเขียว สีน้ำตาลทองอ่อนๆ

และรางก็ใช้วัสดุธรรมชาติคือเป็นรางไม้สัก

ส่วนในห้องน้ำผสมผสานความทันสมัยเข้าไปด้วยการใช้ม่านม้วนสีเบจหวานๆ และให้ความเป็นส่วนตัวด้วยเนื้อม่านที่ทึบเป็นพิเศษ

ผลงานที่ออกมาเหมือนได้ทั้งบ้านและรีสอร์ทรวมอยู่ในที่เดียวกันเลย คืออยู่สบาย ปลอดภัยและได้บรรยากาศชิวๆด้วยค่ะ :)

{gallery}curtain_portfolio/060_BaansomboonsupChonburi{/gallery}

นอกจากผลงานผ้าม่านในบ้านใหม่แล้วก็มีผลงานผ้าม่านของบ้านที่มีการพักอาศัยมานานแล้วซึ่งทางเราได้เข้าไปเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ทั้งบ้านค่ะ

"ไม่ผิดหวังเลยค่ะ" คอมเม้นต์สั้นๆจากปากพี่ผู้หญิงหลังได้เห็นโฉมหน้าใหม่ของบ้าน

จากเดิมเป็นผ้าสีครีมปักลายเล็กน้อย เป็นผ้าลายวินเทจสีสันสดใส

ส่วนห้องนอนใหญ่เป็นผ้าลายดอกไฮเดรนเยีย ผ้าม่านแต่ละชุดทำลวดลายต่อเนื่องกันสวยเลยค่ะ

ในห้องอื่นเป็นม่านพับสีเทา ดูสงบและสบายตาด้วยค่ะ

{gallery}curtain_portfolio/061_BoulevardRatchada{/gallery}

อีกผลงานผ้าม่านกันยูวี กันแสง จากคอนโด RHYTHM พหลฯ-อารีย์

ไม่ต้องใช้ผ้าสีเข้ม ไม่ต้องมีผ้าสีเงินเหมือนผ้าคลุมรถซับด้านหลังและมีเสียงเวลาเปิดปิดก็สามารถกันแดดได้ค่ะ

จะทำเป็นม่านพับก็ดี ม่านจีบหรือม่านตาไก่ก็ได้ค่ะ

พอมาใช้คู่กับผ้าโปร่งก็เหมาะกับการใช้งานมากๆค่ะ

เวลาต้องการแสงสว่างก็ใช้เฉพาะผ้าโปร่ง เวลาต้องการพักผ่อนก็สามารถปิดทึบได้เลยค่ะ

ส่วนห้องน้ำก็ใช้ม่านม้วนสีขาว นอกจากจะทึบ 100% แล้วยังทำความสะอาดได้ง่ายมากค่ะ

สามารถใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำบิดหมาดๆเช็ดได้เลยค่ะ 

{gallery}curtain_portfolio/059_RHYTHMPaholAlee{/gallery}

"สวย สวยมาก สวยทุกห้อง ชอบทุกห้องเลย คุณยายก็ชอบค่ะ" คอมเม้นท์น่ารักๆจากพี่ผู้หญิงเจ้าของบ้าน

หลังจากที่พี่เจ้าของบ้านได้เห็นผลงานของอีกหนึ่งหลังในหมู่บ้านเดียวกันซึ่งเจ้าของเป็นพิธีกรข่าว (ตามไปดูผลงานได้ที่นี่ค่ะ)

พี่เจ้าของบ้านก็ถูกใจ โดยเฉพาะผ้าม่านสีม่วงพาสเทลที่ให้ความน่ารัก ดูสบายตา ไม่ฉูดฉาดและม่านพับลายเส้นต่อลาย

เลยจัดผ้าม่านสีม่วงพาสเทลไว้ที่ห้องนั่งเล่นชั้น 2 ส่วนม่านพับต่อลายเท่ไว้ที่ห้องนอนลูกชายตัวน้อย

สำหรับลูกสาวชอบแนววินเทจ หนูน้อยเลยเลือกผ้าม่านวินเทจดอกไม้สีม่วงที่ดูอ่อนหวาน

ส่วนห้องโถงด้านล่างและห้องนอนใหญ่ ใช้เป็นผ้า Blackout สีเข้มอัดลายนูนเป็นคลื่นไม่ดูพร้อย คู่กับผ้าโปร่งลวดลายเก๋

ห้องดูหนังสือและทำการบ้านของเด็กๆเป็นม่านลายเถาใบไม้พื้นสีครีม ให้ความดูเป็นธรรมชาติ และสดใสไปในตัว

สุดท้ายตรงเคาน์เตอร์เตรียมอาหารในห้องโถงมีมู่ลี่อลูมิเนียมสีน้ำตาลทองเมทัลลิค ดูหรูหรามากๆค่ะ

{gallery}curtain_portfolio/058_MantanaWongwan{/gallery}

อีกหนึ่งผลงานผ้าม่านสวยๆที่เราภูมิใจนำมาฝาก จากหมู่บ้านแกรนด์ โมนาโค บางนา

ห้องโถงรับแขกเป็นผ้าม่านสีน้ำตาลดูเข้ากับ Built-in ไม้ปนดำออกแนวโมเดิร์น

ห้องโถงนั่งเล่นชั้นบน ใช้ผ้าม่านสีเขียวเหมาะแก่การพักผ่อนสายตา

(อันนี้เป็นข้อแนะนำเล็กๆน้อยๆในการดูแลสายตา

แนะนำโดยคุณลูกค้าท่านนึงของทางเราที่เป็นหมอทางด้านจักษุค่ะ

ขอบพระคุณสำหรับเกร็ดความรู้ดีๆ ที่ทางเราสามารถนำมาฝากผู้เยี่ยมชมทุกท่านนะค่ะ)

ส่วนห้องนอนใหญ่ใช้ผ้าม่าน Blackout สีชมพูหวานๆ

ห้องนอนเล็ก 2 ห้องเป็นม่าน Blackout สีฟ้าและสีเทา

ห้องนอน 3 ห้อง 3 สี 3 สไตล์ ถูกใจผู้พักผ่อน

และเปลี่ยนบรรยากาศร้อนๆจากแสงแดดกับความวุ่นวายภายนอกบ้านเป็นบรรยากาศเย็นๆ สบายตา สบายกาย และสบายใจด้วยค่ะ :)

ขอบพระคุณที่ให้เราเป็นส่วนนึงที่ช่วยแต่งแต้มความสวยงามและใช้งานได้จริงให้กับบ้านที่คุณรัก

{gallery}curtain_portfolio/057_Grandmonaco{/gallery}

ขอบคุณคุณเจ้าของห้องสวยๆในคอนโด Fuse สาธร ที่ให้ทางเราได้เข้าไปแต่งแต้มและเก็บภาพผลงานสวยๆนะค่ะ

คอนโดส่วนใหญ่มักจะมีกระจกที่กว้างเพิ่อรับแสงและสามารถรับลมได้ จึงอาจจะต้องเจอกับความร้อนจากแสงแดด

ผ้าม่านจึงมีส่วนสำคัญมาก แต่หากเราต้องการให้กันแดดได้ก็จำเป็นต้องใช้ผ้าสีเข้มมาช่วย

ผ้า Blackout มีส่วนช่วยได้อย่างมาก เพราะมีความทึบมากกว่าผ้าทั่วไปแม้จะเป็นสีอ่อน

ผ้าม่าน Blackout สีเบจ ดูสบายตาแต่สามารถกันแดดได้

ในส่วนของห้องนั่งเล่นมีผ้าโปร่งด้วย ดูสบายตาและผ่อนคลายมากขึ้นด้วยค่ะ

{gallery}curtain_portfolio/056_FuseSathorn{/gallery}

รูปผลงานนี้มาจากหมู่บ้านสีวลี บางนา-เทพารักษ์

ทุกห้องใช้ผ้า Blackout ทั้งหมดเลยค่ะ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและช่วยกันแดดได้ด้วย

ส่วนห้องทานข้าวใช้เป็นม่านปรับแสงแบบ Dimout สีขาวดูสะอาดตา สามารถช่วยรับแสงและบังสายตาได้พร้อมกันเลยค่ะ

{gallery}curtain_portfolio/055_SriwareeBangna{/gallery}

หลังจากที่ได้ชมผลงานจากบ้านเดี่ยวไปหลายหลังแล้ว

วันนี้เราจะมาดูผลงานผ้าม่านจากคอนโดกันบ้างนะค่ะ
เป็นผลงานจาก คอนโด The Seed Mingle (เดอะซี๊ด มิงเกิ้ล) โครงการ สาทร-สวนพลู8
คุณเจ้าของห้องให้โจทย์มาว่าอยากได้ห้องนั่งเล่นดูโปร่งโล่งสบายตา
ส่วนในห้องนอนอยากได้ความเป็นส่วนตัวสูงและกันแดดได้ดี

ทางเราจึงเลือกผ้า Blackout สีขาวครีมกับผ้าโปร่งมีลายเล็กน้อยดูสบายตาแต่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสำหรับห้องนั่งเล่น
ส่วนห้องนอนเป็นผ้า Blackout สีน้ำตาลเข้มกับผ้าโปร่งลายเส้นตั้ง ดูสงบและมืดเหมาะแก่การนอน
คุณเจ้าของห้องถูกใจมากค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะที่ไว้วางใจและอนุญาตให้เราเก็บภาพมาฝากทุกท่านนะค่ะ

วันนี้เราขอนำเสนอผลงานผ้าม่านที่เหมือนเอาคฤหาสน์หรูมาย่อส่วนใส่ไว้ในรูปแบบคอนโดค่ะ

โซนทำงานในห้องนอนใช้ผ้าม่าน Blackout สีฟ้าอมเขียวให้ความหรู โมเดิร์นเหมือนอยู่ในคฤหาสน์หรูโซนยุโรป และดูสบายตา ผ่อนคลาย
ห้องนั่งเล่น ใช้ผ้า Blackout สีเบจดูเข้ากันกับโซฟา ให้บรรยากาศคลาสสิกค่ะ
ส่วนห้องน้ำใช้มู่ลี่สีสันสดใส สร้างความสดชื่นรับวันใหม่

{gallery}curtain_portfolio/054_IdeoSapankuay{/gallery}

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาดูผลงานจากบ้านเดี่ยวแนวใหม่ i-nova จาก Land & Houses

โถงนั่งเล่นชั้นบนและช่องแสงบันได ใช้ม่านจีบสีน้ำตาล นอกจากดูเข้มเก๋และยังสามารถช่วยบังแดดได้ด้วย
ส่วนห้องนอนใหญ่ เป็นม่านจีบผ้า Blackout สีน้ำตาลเข้มเข้ากับวอลล์เปเปอร์หัวเตียงมากค่ะ
ในห้องนอนด้านหลังใช้เป็นม่านพับดูโมเดิร์นสีครีม และห้องพระเป็นมู่ลี่ไม้สีขาวกุ๊นผ้าสีน้ำตาลเข้มดูไม่เรียบเกินไป
ส่วนห้องโถงล่าง เป็นผ้าไหมสีครีม ดูหรูและสบายตาด้วยค่ะ

{gallery}curtain_portfolio/052_I-nova{/gallery}

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเยี่ยมชมผลงานจากทาวน์โฮมโมเดิร์นติดวงแหวนรอบนอก
โครงการ "The Villa บางบัวทอง"
ขอขอบพระคุณคุณลูกค้าที่เอื้อเฟื้อสถานที่ให้เราได้เก็บผลงานมาฝากผู้เยี่ยมชมทุกท่านนะค่ะ

ห้องนอน คุณลูกค้าเลือกใช้เป็นผ้า Blackout สีเบจเนื้อนุ่มอัดลายนูนรูปดอกไม้
ในส่วนของห้องน้ำใช้มู่ลี่อลูมิเนียมไล่โทนสีตั้งแต่ชมพูอ่อนถึงแดงดูมีสีสันสดใส
ส่วนห้องพระใช้มู่ลี่ไม้สีขาวสะอาดตาและให้ความรู้สึกสงบ
ห้องนั่งเล่นก็แต่งด้วยผ้าซาตินสีชมพูอ่อนสดใสกุ๊นกลางด้วยสีชมพูเข้มดูเก๋

{gallery}curtain_portfolio/051_ThevillaBangbuathong{/gallery}

เหมือน กับข้าวของอื่น ผ้าม่านเมื่อเราใช้ไปนานๆ ย่อมมีฝุ่นเกาะ ซึ่งหากปล่อยไว้นานๆ อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค และอาจทำให้คุณเป็นโรคภูมิแพ้ได้

ในการทำความสะอาดผ้าม่านนั้น ผ้าม่านโดยทั่วไป เราสามารถดูแลด้วยตัวเองได้

วิธีซักผ้าม่าน
ม่านหน้าต่าง ม่านประตู ที่มีสีสันสวยสด

เวลาซัก ให้ซักด้วยน้ำสบู่เย็น ๆ (อย่าใช้น้ำร้อน)
เมื่อสะอาดดีแล้วนำไปผึ่งลมให้แห้งพอหมาด ๆ จึงนำเข้าที่เดิม ให้แห้งด้วยลมที่โกรกผ่านไปมา อย่านำไปตากแดด หรือรีดด้วยเตารีด เพราะจำทำให้ผ้าม่านนั้นเก่าเร็ว

เคล็ดลับ : ขณะนำผ้าม่านลงไปแช่ในน้ำเย็นใส่เกลือผสมลงไปสัก 2 กำมือ ฝุ่นที่จับผ้าและสิ่งสกปรก ที่ผ้าม่าน จะหมดไปอย่างง่ายดาย

*** เนื้อหานี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางร้านวิจิตรรัตน์ม่าน หากต้องการนำไปใช้กรุณาอย่าลืมให้เครดิตลิ้งก์กลับมาที่เว็บไซต์ด้วย ขอบคุณค่ะ ***

จะทำผ้าม่านที ต้องมีงบเท่าไหร่หนอ?
แพงไหม ถ้าจะทำผ้าม่านให้บ้านทั้งหลัง?

คุณสามารถประเมินราคาเบื้องตนได้ด้วยตัวคุณเอง

วิธีวัดพื้นที่ ผ้าม่าน เพื่อประเมินราคาความกว้าง (จากด้านซ้ายไปด้านขวา) วัดจากขอบวงกบด้านนอกออกไปประมาณ 5 - 10 ซม. หรือตามต้องการ (ตามความเหมาะสม) ความสูง (วัดจากด้านบนลงด้านล่าง) วัดจากขอบวงกบขึ้นไป 10 ซม.และวัดจากขอบวงกบด้านล่างลงอีก 15 - 20 ซม หรือตามต้องการ

หรือง่าย ๆ เพียง วัดขนาดของหน้าต่างหรือประตู (กว้าง + 20ซม.) x (ยาว + 10 ซม.) แล้วนำไปคูณกับราคาของผ้าม่าน

วิธีวัดพื้นที่ ม่านปรับแสง และ มู่ลี่ ก็เหมือนกับวิธีวัดผ้าม่าน แต่อาจเผื่อด้านข้าง ด้านบน ด้านล่าง น้อยกว่าผ้าม่าน หรือตามต้องการ

วิธีวัดขนาดพื้นที่ ม่านพับ เพื่อประเมินราคามี วิธีวัดเหมือน ผ้าม่าน ทั่วไป แต่เพื่อความสวยงามและห้องมีแสงสว่าง ควรวัดความสูงจากขอบวงกบด้านบนขึ้นไปประมาณ 30 - 40 ซม. และด้านล่างก็วัดจากขอบวงกบด้านล่างลงพื้นประมาณ 10 - 15 ซม.

หรือโทรหาเรา "วิจิตรรัตน์ม่าน"
บริการวัดพื้นที่และประเมินราคาถึงบ้านท่าน ฟรี!!!!
ออกแบบ ตัดเย็บ ติดตั้งผ้าม่าน ให้งดงามดังใจ ในงบที่คุณกำหนดได้
โทร. 086-342-8883 , 083-832-2200
http://www.vijitratcurtain.com/

*** เนื้อหานี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางร้านวิจิตรรัตน์ม่าน หากต้องการนำไปใช้กรุณาอย่าลืมให้เครดิตลิ้งก์กลับมาที่เว็บไซต์ด้วย ขอบคุณค่ะ ***

นอกจากประโยชน์ใช้สอยของผ้าม่าน ที่เคยได้กล่าวมาแล้วนั้น
สีของผ้าม่านเอง ก็สามารถสื่อความรู้สึกต่างๆได้อีกด้วย
สีก็จะให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างๆ ดังนี้

ผ้าม่านให้ความรู้สึกสดชื่น (FRESH)
เป็น กลุ่มสี Pastel อ่อนๆ หรือสีที่สว่างสดให้ความรู้สึก สดชื่นเบิกบานใจ มีชีวิตชีวา สะอาดสบายตาสดใสร่าเริง เช่น สีฟ้าน้ำทะเล สีโทนเขียว เป็นต้น

ผ้าม่านให้ความรู้สึกอบอุ่น (WARM)
เป็น กลุ่มสีที่ไม่เข้มมาก แต่มีส่วนผสมของสีดำหรือสีเหลือง ให้ความรู้สึก อบอุ่น เป็นกันเอง สงบ ผ่อนคลาย สบายๆ ปลอดภัย เช่น สีน้ำตาล สีอิฐ เป็นต้น

ผ้าม่านให้ความรู้สึกอ่อนหวาน (SWEET)
เป็น กลุ่มสีโทนนุ่มๆ หวานๆ ให้ความรู้สึก อ่อนหวานสดใส นุ่มนวลชวนฝัน น่าทนุถนอม และโรแมนติก เช่น สีชมพู สีส้มอ่อน สีเหลือง สีครีม เป็นต้น

ผ้าม่านให้ความรู้สึกเร้าใจ (ENERGETIC)
เป็น กลุ่มสีที่มีความเข้มและสดมาก ให้ความรู้สึก เร้าอารมณ์ ตื่นตาตื่นใจ กระฉับกระเฉง สนุกสนาน กระตือรือร้น เช่น สีแดงสด สีน้ำเงิน สีเหลือง สีส้ม เป็นต้น

*** เนื้อหานี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางร้านวิจิตรรัตน์ม่าน หากต้องการนำไปใช้กรุณาอย่าลืมให้เครดิตลิ้งก์กลับมาที่เว็บไซต์ด้วย ขอบคุณค่ะ ***

หลายคนมักจะลังเล และเลือกไม่ถูกเลย กับแบบผ้าม่านที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน ทั้งแบบม่านจีบและแบบม่านตาไก่
ลองมารู้จักกับม่านทั้งสองแบบกันดีกว่า ว่ามีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร และมีความสวยงาม ให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างไร?

หัวม่านจีบ
ม่านจีบ (Pleat Curtain) เป็นม่านที่ได้รับความนิยมกันมานานแล้ว ด้วยส่วนหัวของผ้าที่มีการจับจีบสวยงาม แสดงออกถึงความประณีต บรรจง ให้ความรู้สึกที่ดูหรูหรา สง่างาม โอ่โถง ภูมิฐาน จึงได้รับความนิยมนำไปใช้กับการแต่งห้องที่ดูหรูหรา ต้องการความสวยงามและคลาสสิค ส่วนใหญ่จะใช้ผ้าเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งไป เช่นเป็นสีพื้นไปเลย หรือเป็นลวดลายไปเลย เพราะตัวจีบเองมีความสวยงามและลูกเล่นอยู่ในตัวอยู่แล้ว ส่วนตัวรางนั้น สามารถเลือกรางได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นรางซ่อน (มองไม่เห็นตัวราง) หรือเป็นรางโชว์ ซึ่งมีหลากหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบไม้ แบบโลหะแวววาว และแบบด้าน ตามแต่คนชอบ

...............................................................................

ม่านตาไก่รางโชว์
ม่านตาไก่ (Eyelet Curtain) เป็นม่านที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน เนื่องจากแบบม่านตาไก่นั้น ให้ความรู้สึกทันสมัย ดูเรียบๆ สะอาดตา โดยการใส่ห่วงตาไก่ลงบนหัวของผ้า และร้อยเข้ากับราง ซึ่งชนิดของห่วงตาไก่และราง จะให้ความรู้สึกแตกต่างกันไป เช่นห่วงและรางเป็นไม้สัก จะให้ความรู้สึกธรรมชาติ, ห่วงและรางแบบโลหะแวววาว จะให้ความรู้สึกทันสมัย (Modern), ห่วงและรางแบบโลหะด้าน จะให้ความรู้สึกแข็งแรงและคลาสสิค เช่น Antique เป็นต้น และตัวของผ้าเอง มักจะมีการเล่นลวดลายเพิ่มลงไป เช่นการกุ๊นขอบเป็นสีหรือลวดลาย เพื่อให้ไม่ดูเรียบจนเกินไป ซึ่งอันนี้ต้องแล้วแต่คนอยู่ว่าชอบแบบไหน

หลังจากที่ได้รู้จักม่านจีบและม่านตาไก่แบบลงลึกกันไปแล้วนั้น น่าจะทำให้ได้ไอเดียมากขึ้น ว่าห้องของเรานั้นควรจะใช้ผ้าม่านแบบไหนดี จึงจะเหมาะกับแนวของห้องและความต้องการของเรา หวังว่าเพื่อนๆคงได้แบบผ้าม่าน ไปแต่งห้องสวยๆกันนะค่ะ

ส่วนใครที่สนใจเรื่องการเล่นลายบนผ้าม่านนั้น ต้องติดตามต่อกับบทความหน้า กับวิจิตรรัตน์ รอบรู้เรื่องม่านนะค่ะ แล้วเจอกันค่ะ

ความแตกต่างระหว่างม่านตาไก่กับม่านจีบ

*** เนื้อหานี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางร้านวิจิตรรัตน์ม่าน หากต้องการนำไปใช้กรุณาอย่าลืมให้เครดิตลิ้งก์กลับมาที่เว็บไซต์ด้วย ขอบคุณค่ะ ***

หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินคำถามที่ว่า "คุณอยากได้ม่านแบบไหนหล่ะ Sunscreen/Dimout/Blackout?" และ อาจจะเกิดความสงสัยว่า แล้วมันต่างกันอย่างไรหล่ะ? แล้วแบบไหนที่จะเหมาะสมกับการใช้งานของเรา

คำว่า Sunscreen, Dimout และ Blackout นั้น เป็นคำที่บอกระดับการลอดผ่านของแสง
เมื่อใช้กับผ้าม่านนั้น ก็จะหมายถึงว่า ผ้าม่านนั้นแสงสามารถลอดผ่านได้ระดับไหน?

- ผ้าม่าน Sunscreen หรือที่เรียกว่า ผ้าม่านชนิดสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้นั้น แสงสามารถลอดผ่านได้ประมาณ 50-70%
- ผ้าม่าน Dimout หรือที่เรียกว่า ผ้าม่านที่แสงผ่านได้ แสงจะสามารถลอดผ่านได้ประมาณ 30-40%
- ผ้าม่าน Blackout หรือที่เราเรียกว่า ผ้าม่านทึบแสงนั่นเอง แสงจะลอดผ่านไม่ได้เลย หรือได้ก็น้อยมากๆผ้าม่าน Sunscreen หรือที่เรียกว่า ผ้าม่านชนิดสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้นั้น แสงสามารถลอดผ่านได้ประมาณ 50-70%
ลองมาดูตัวอย่างของผ้าม่าน Sunscreen, Dimout, Blackout กันเลย ว่าเป็นอย่างไรและเหมาะกับการใช้งานแบบใด

ผ้าม่าน Sunscreen (ผ้าม่านชนิดสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้)

เนื่อง จากแสงสามารถลอดได้ 50-70% ดังนั้นการใช้งานส่วนใหญ่จะเน้นการมองวิวภายนอก แต่บังแสงแดดไว้เพียงระดับเดียวเท่านั้น เหมาะกับห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น ที่ต้องการความโปร่งโล่งสบาย และไม่เน้นความเป็นส่วนตัวมากนัก นอกจากในบ้านแล้ว ผ้าม่าน Sunscreen ยังนิยมใช้ตามร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ

ผ้าม่าน Dimout (ผ้าม่านชนิดแสงผ่านได้)

เป็น ผ้าม่านแบบที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะแสงลอดผ่านได้ 30-40% เป็นผ้าม่านที่อยู่ระดับกลางๆ คือไม่โปร่งจนเกินไป ไม่ทึบจนเกินไป เหมาะกับทุกห้องที่ต้องการบังแสง บังสายตาระดับหนึ่ง แต่ห้องยังคงสว่างอยู่ แต่ไม่จ้าจนแสบตา หากมีการเลือกใช้สีสัน ก็จะทำให้ห้องเกิดความรู้สึกที่ต่างออกไปได้ นอกจากในบ้านแล้ว ยังนิยมใช้ตามสำนักงานออฟฟิต และ โรงแรมต่างๆ

ผ้าม่าน Blackout (ผ้าม่านชนิดทึบแสง)

สำหรับ คนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมากๆ หรือไม่ต้องการให้แสงลอดผ่านเลยนั้น ผ้าม่าน Blackout หรือผ้าม่านชนิดทึบแสงนี้ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าเมื่อปิดลงมาแล้วแสงจะไม่ลอดผ่านเลย หรือถ้าจะลอดผ่านจริงๆจะเป็นรอยต่อระหว่างผ้าม่านกับหน้าต่างมากกว่า (ขึ้นอยู่กับรูปแบบผ้าม่านที่เราเลือก ถ้าอยากให้ทึบเลย เลือกทำเป็นแบบม่านตาไก่หรือม่านจีบจะดีมาก) นิยมใช้กับห้องนอนที่ต้องการนอนเต็มที่แม้จะเป็นกลางวันก็ตาม หรือจะเป็นห้องนั่งเล่น ที่ชื่นชอบในการดูหนังร่วมกันบ่อยๆ อยากได้ห้องมืดๆเพื่อให้สามารถเห็นภาพได้คมชัด หรือว่าจะเป็นห้องทำงานที่ไม่ต้องการให้แสงสะท้อนกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผ้าม่านแบบทึบแสงนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว

ผ้าม่านเหล่านี้มีให้เลือกมากกว่า 500 เฉดสี ตามความต้องการของเราเลยหล่ะค่ะ
แต่ละเฉดสีก็ยังสามารถเลือกระดับแสงส่องผ่านได้ Blackout/Dimout/Sunscreen

แล้วคุณหล่ะ..อยากได้ผ้าม่านแบบได้ Blackout , Dimout หรือ Sunscreen ดีค่ะ? :)

*** เนื้อหานี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางร้านวิจิตรรัตน์ม่าน หากต้องการนำไปใช้กรุณาอย่าลืมให้เครดิตลิ้งก์กลับมาที่เว็บไซต์ด้วย ขอบคุณค่ะ ***

มาพูดถึงความยาวผ้าม่านกันดีกว่า เค้าว่ากันว่าแค่ "ความยาวผ้าม่าน" ก็ให้อารมณ์ที่ต่างกันไปมากเชียวหล่ะ

ส่วนใหญ่ความยาวผ้าม่าน มีให้เลือก 4 แบบด้วยกัน

แบบที่ 1 คือ ยาวพอดีพื้น

อันนี้จะเป็นการทำผ้าม่านให้ยาวกว่าหน้าต่างจริง โดยทำให้ผ้าม่านยาวพอดีแตะพื้น หรือถ้ามีบัวก็พอดีกับบัวเลยก็ได้ ความยาวผ้าม่านแบบนี้จะช่วยให้ห้องดูสูงขึ้น ดูน่าสนใจมากขึ้น กว่าหน้าต่างปกติ ดูสง่าและสวยงามสไตล์ยุโรป

แบบที่ 2 คือ ความยาวพอดีขอบหน้าต่าง

อันนี้ความยาวจะกำลังพอดีเป๊ะกับขอบล่างของหน้าต่าง อันนี้เป็นความยาวแบบปกติ ไม่เปลืองผ้า และกำลังสวย สำหรับคนที่ชอบอะไรแบบสะอาดๆ เรียบร้อย

แบบที่ 3 คือ ความยาวแบบเลยขอบหน้าต่างมาหน่อย

ซึ่งเป็นแบบที่นิยมทำมากที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะว่า ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนและมีแสงแดดส่องค่อนข้างแรง ทำให้ต้องทำความยาวผ้าม่านลงมาจากขอบหน้าต่างประมาณ 10-15 ซม. เพื่อช่วยไม่ให้แสงลอดเข้ามาในบ้าน และความยาวที่กำลังพอดีนี้ ก็ไม่กินเนื้อผ้ามากเกินไป

แบบที่ 4 คือ ความยาวแบบกองกับพื้น

ซึ่งก็คือการทำความยาวของผ้าม่านให้ลากลงมาถึงพื้นและเลยออกมาอีกประมาณ 20 ซม. เพื่อให้ปลายผ้าม่านนั้นกองอยู่กับพื้น ให้ความรู้สึกหรูหรา โรแมนติก เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เน้นใช้ผ้าเนื้อหนาทิ้งน้ำหนัก จะดูสวยงามที่สุด

เป็นยังไงบ้างค่ะ ผ้าม่านทั้ง 4 แบบ คิดว่าแบบไหนเหมาะกับห้องของคุณมากที่สุด ลองเลือกดูนะค่ะ ^___^ (เลือกยากอยู่ แต่คนเขียนชอบแบบยาวพอดีพื้นค่ะ) อ้อ แล้วก็อย่าลืมคำนึงถึงงบประมาณด้วยนะค่ะ เพราะว่าแบบที่ยาวมาก ก็กินผ้ามากเช่นเดียวกันค่ะ

*** เนื้อหานี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางร้านวิจิตรรัตน์ม่าน หากต้องการนำไปใช้กรุณาอย่าลืมให้เครดิตลิ้งก์กลับมาที่เว็บไซต์ด้วย ขอบคุณค่ะ ***