ออกแบบประเมินราคาถึงบ้าน ฟรี
บริการทั่วกรุงเทพและปริมณฑลโทรจองคิวได้เลย ทุกวัน
จะสะดวกวันธรรมดาหรือวันเสาร์อาทิตย์ ยินดีค่ะ
ทำไมต้องวิจิตรรัตน์
One Stop Service ที่เดียวครบ
ออกแบบ ตัดเย็บ ติดตั้ง ด้วยมืออาชีพ
เริ่มต้นเพียง 6,000 บาท
จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้
ผ้าม่านสวย
ด้วยงบที่คุณกำหนดได้
ประสบการณ์กว่า 20 ปี
รับประกันความพึงพอใจ
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
ประทับใจหลายอย่างครับ ทั้งความรวดเร็วในการบริการ มีตัวอย่างให้เลือกหลายหลาย แต่ที่ประทับใจที่สุดคือฝีมือที่ประณีต ช่วยดูแลรักษาความสะอาดให้ด้วย ห้องไม่เลอะเลย การบริการสุภาพและเป็นกันเองด้วยค่ะ^^
เอ๋ (นิ้วกลม) และชิงชิง
“ม่านสวย หรู สบายกระเป๋า” เป็นคำพูดสั้นๆ แต่ได้ใจความ จากปากของคุณคิม"
คุณคิม รณกฤต สิทธิพรหม นักธุรกิจ 1 ใน 50…
“บริการดีมากค่ะ มู่ลี่สวยดี ราคาก็ถูกใจด้วย”
บริษัท CPL ENTERPRISE ผู้ผลิตงานสแตนเลสค…
“ให้น้องทำก่อน อยากดูฝีมือของร้าน ถ้างานไม่เรียบร้อย จะไม่ยอมทำ จะให้ร้านอื่นมาตีราคา พอเห็นงานออกมา แถมน้องก็ชมไม่หยุดปาก เลยตัดสินใจได้ทันที ว่าทำกับร้านนี้แหละ และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ด้วย สวยมากๆ ครับ พอใจมากเลยครับ”
ม.วรารมย์ พหลโยธิน-สายไหม
“ผ้าม่านสวยมากค่ะ ชอบมากๆ งบก็ถุกใจด้วย เรียกว่าคุ้มจริงๆ”
ผู้ตรวจสอบบัญชี ม.เฟอร์เฟคเพลส
“เลือกร้านนี้เพราะว่า เห็นมีแต่ลูกค้าชมและชอบ ตอนนี้ไม่แปลกใจแล้วครับ เพราะให้คำแนะนำที่ดีจริงๆ จนได้ผ้าม่านออกมาสวยหรูสมกับบ้านของผมจริงๆ แถมบริการดีมากๆ เรียกว่าคุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ ครับ ให้ดูจากรูปเองเลยดีกว่าครับ ว่าสวยขนาดไหน ชอบมากจริงๆ ครับ”
คุณตั้ม บ้านเดี่ยวสร้างเอง นครปฐม
"ต้องลองเองค่ะ ถึงจะรู้ว่า…สวยยังไง” เป็นคำบอกเล่าสั้นๆ ของลูกค้า
คุณพิมล ม.บางกอก บูเลอวาร์ด
“สวยมากๆ สวยจริงๆ”, “บ้านน่าอยู่ขึ้นเลย” เจ้าของบ้านนั่งจ้องผ้าม่านอยู่นานสองนานและชมไม่หยุดปาก
ม.ปัญญา
“ออกแบบได้สวยหรู ดูภูมิฐานดีครับ เวลาติดตั้งก็ไม่ทำให้บ้านเลอะ ราคาก็ถูกกว่าที่อื่นเยอะ งานเรียบร้อยจริงๆ ขอบคุณครับ”
คุณธีรเดช หงส์พิสุทธิกุล ม.ภัสสร7 รัตนาธ…
“ได้งานที่ถูกใจ รางแสตนเลส ที่อื่นจะแพงมาก แต่ที่นี่จัดหาได้ ถูกมาก เป็นรางแสตนเลสแท้ๆด้วย พอใจค่ะ งานสวยทนทาน คิดตั้งได้เรียบร้อยดีมากๆ ประหยัดงบไปตั้งเกือบ 20,000 บาท ค่ะ”
คุณวริศยา ม.ภัครภิรมย์ ศรีนครินทร์
ร้านผ้าม่าน วิจิตรรัตน์ ผ้าม่านสวย ผ้าม่านดี ผ้าม่านถูก
"จริงใจเหมือนเพื่อน ราคาถูกเหมือนคนรู้จัก"
ได้ลองแล้วจะรู้ว่า ทำไมลูกค้านับแสนหลังถึงเลือกร้านผ้าม่านวิจิตรรัตน์ และบอกต่อกันมากว่า 20ปี
ร้านผ้าม่านวิจิตรรัตน์ บริการตัดเย็บติดตั้งผ้าม่าน มู่ลี่ พรม วอลเปเปอร์
สีสันต่าง ๆ ภายในบ้าน
สีสันต่าง ๆ ภายในบ้านมีผลต่ออารมณ์ของความรู้สึกของเราได้จริงๆหรือ?
เรื่อง นี้มีข้อพิสูจน์ในเชิงวิทยาศาสตร์แล้วว่าเป็นความจริง ถามว่าสาเหตุอะไรจึงเป็นเช่นนั้น คำตอบก็คือ เพราะพฤติกรรมของคนมีส่วนมาจากสภาพแวดล้อม ประสบการณ์และจิตวิทยาบนพืานของผลกระทบจากสีที่เรารับเข้ามาจากภายนอกผ่าน ทางลูกนัยน์ตา เมื่อรับสีที่แตกต่างกัน การรับรู้จากสายตาจะกระตุ้นปฏิกิริยาในสมองอย่างฉับพลัน จึงทำให้เกิดเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป
ทีนี้ลองมาดูว่าจะมีวิธีการใช้สีในโทนต่างๆ ให้เหมาะกับการใช้งานได้อย่างไรบ้าง
เริ่มจากสีโทนเย็น อย่างเช่น ...
สีฟ้าอ่อนและเขียวอ่อนจะช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านมีความเงียบสงบ เหมาะกับห้องที่ต้องการความสงบอย่างเช่นห้องนอน
ส่วนสีชมพูเหมาะสำหรับทาสีห้องของเด็กเพราะจะช่วยกระตุ้นความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และความแข็งแรงของร่างกาย
ถ้าเป็นผนังบ้านถ้าใช้สีขาวหรือสีโทนอ่อนเพียงสีเดียว จะช่วยให้ห้องขนาดเล็กดูกว้างขึ้นและให้ความรู้สึกเย็นลงในหน้าร้อนอีกด้วย
สำหรับในห้องนั่งเล่นหรือห้องโฮมเธียร์เตอร์นั้น อาจใช้สีม่วงอ่อนซึ่งช่วยเร้าจินตนาการหรือสีเหลืองอ่อนเพื่อกระตุ้นจิตใจให้สดชื่นและมีความกระตือรือร้น เพื่อให้คนในบ้านเกิดกิจกรรมร่วมกันมากขึ้นก็ได้
สำหรับ สีโทนร้อน อย่างสีเข้มๆ ควรใช้ในห้องที่ต้องการบรรยากาศร่าเริงสดใส เช่นห้องที่เด็กๆ ชอบเล่นกันหรือห้องครัว แต่ควรต้องใช้สีกลางๆ ลดความเข้มของสีลงบ้าง เพราะจะไปกระตุ้นร่างกายให้ทำงานเร็วเกินไป
ตัวอย่างเช่น ในร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด นิยมใช้สีแดงเป็นส่วนมากเพราะสีแดงมีผลที่ไปกระตุ้นต่อมน้ำลายทำให้เรารู้สึกหิวและทำให้สายตาของเราล้า ทำให้เพิ่มความหิวมากยิ่งขึ้น แต่ร้านอาหารบางแห่งมักจะใช้สีส้มหรือสีพีชอ่อนๆ กับผนังหรือผ้าม่านเพราะเป็นสีที่ให้ความรู้สึกต้อนรับขับสู้และสดใสขึ้น
สีเหลืองเหมาะกับบ้านที่ต้องการความสดใส สว่างและเยือกเย็น เพราะเข้าได้กับวัสดุตกแต่งหลายชนิด ไม่ร้อนและไม่เย็นจนเกินไป
สีส้มให้ ความรู้สึกอบอุ่นสดใสแต่ไม่ร้อนแรงจนเกินไป จึงนิยมใช้ในส่วนที่เป็นของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ เช่น เก้าอี้ โซฟาที่เป็นผ้าหรือสิ่งทอรวมทั้งใช้เป็นสีของชุดเครื่องครัว สีที่เข้ากันกับสีส้มได้ดีคือสีขาวควันบุหรี่และสีเทาอ่อนๆ
ถ้าเด็กที่ขี้ตื่น ตกใจง่ายควรใช้สีฟ้า จะทำให้เด็กรู้สึกสงบลง
บทความ ::freeplan.com
ภาพประกอบ :: hometophit.com
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : http://th.88db.com/th/Knowledge/Knowledge_Detail.page?kid=7205
ผ้าม่าน Blackout กับ UV
เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกันค่ะ เหมือนกันที่วัตถุประสงค์ในการบังแสงเหมือนกัน
ซึ่งแสงแดดนั้นมีทั้งแสงและความร้อน (ซึ่งเกิดจากรังสี UV)
ทำไมเค้าถึงติด Blackout กัน?
ผ้าม่าน Blackout หรือ ผ้าทึบแสงนั้น เป็นผ้าม่านที่กันแสงได้ถึง 99% และผ้าม่าน Blackout ส่วนใหญ่ก็จะมีการเคลือบกันรังสี UV ด้วยเช่นกัน
ผ้าม่าน Blackout ช่วยทำให้ห้องมืด เหมาะแก่การพักผ่อนเต็มที่ทั้งกลางวันและกลางคืน
ผ้าม่าน Blackout ช่วยทำให้ห้องเย็นขึ้น ผู้อาศัยสบายตัว สบายประเป๋าด้วย เพราะช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟ แอร์ก็ทำงานหนักน้อยลง
ผ้าม่าน Blackout ช่วยป้องกันรังสี UV ที่จะมาทำลายผิวของคุณ คุณจะสวยขึ้น หน้าใสไร้ฝ้า ผิวขาวสวย (เพราะแสงแดดไม่สามารถทำอะไรคุณได้ ถ้าคุณขลุกอยู่ในห้องทั้งวัน)
ผ้าม่าน Blackout ช่วยป้องกันรังสี UV ที่โดนมากๆ อาจทำให้คุณเป็นมะเร็งผิวได้
ผ้า Blackout ใช่ที่เป็นสีเงินๆ ทำจากเส้นใยอะไรสักอย่างใช่หรือไม่?
ถ้าให้นึกออกง่ายๆ ลองคิดถึงผ้าคลุมรถที่เราใช้กันอยู่ ที่เป็นสีเงินๆ
ถ้าเป็นแต่ก่อนคนที่ต้องการใช้ม่าน blackout ก็จะต้องทำผ้าม่านเป็น 2 ชั้น คือม่านธรรมดาชั้นหนึ่ง ม่านสีเงินๆอีกชั้นหนึ่ง
แล้วถ้าอยากได้ผ้าโปร่งด้วย ต้องทำ 3 ชั้นเลย
แต่เดี๋ยวนี้ผ้าม่านมีวิวัฒนาการมากขึ้น เราสามารถที่จะใช้ผ้าที่มีสีสันสวยงาม ลวดลายดูดี ที่สามารถป้องกัน UV ได้ในตัวแล้ว
ทำให้สามารถทำผ้าม่านเพียงชั้นเดียว ก็สามารถกันทั้งความร้อน และแสงที่มาแยงตาของเราได้
ราคาจะสูงกว่าผ้าม่านธรรมดา แต่อายุการใช้งานของผ้าม่านที่นานนับ 10 ปี คิดไปแล้วก็เรียกว่าคุ้มมากๆ
แล้วการดูแลรักษาหล่ะ ยากไหม?
การซักและดูแลทำความสะอาดผ้า Blackout นั้น สามารถซักได้เหมือนกัน แต่ควรจะเน้นการแช่เป็นหลัก ในน้ำอุณหภูมิปกติ (ไม่ควรใช้น้ำร้อน)
ให้ขยี้ได้นิดหน่อยๆ (ถ้าจะเป็น แต่ไม่แนะนำนะค่ะ) แล้วก็นำขึ้นตากปกติค่ะ
*** เนื้อหานี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางร้านวิจิตรรัตน์ม่าน หากต้องการนำไปใช้กรุณาอย่าลืมให้เครดิตลิ้งก์กลับมาที่เว็บไซต์ด้วย ขอบคุณค่ะ ***
ม่านจีบ vs ม่านตาไก่
หลายคนมักจะลังเล และเลือกไม่ถูกเลย กับแบบผ้าม่านที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน ทั้งแบบม่านจีบและแบบม่านตาไก่
ลองมารู้จักกับม่านทั้งสองแบบกันดีกว่า ว่ามีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร และมีความสวยงาม ให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างไร?
หัวม่านจีบ
ม่านจีบ (Pleat Curtain) เป็นม่านที่ได้รับความนิยมกันมานานแล้ว ด้วยส่วนหัวของผ้าที่มีการจับจีบสวยงาม แสดงออกถึงความประณีต บรรจง ให้ความรู้สึกที่ดูหรูหรา สง่างาม โอ่โถง ภูมิฐาน จึงได้รับความนิยมนำไปใช้กับการแต่งห้องที่ดูหรูหรา ต้องการความสวยงามและคลาสสิค ส่วนใหญ่จะใช้ผ้าเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งไป เช่นเป็นสีพื้นไปเลย หรือเป็นลวดลายไปเลย เพราะตัวจีบเองมีความสวยงามและลูกเล่นอยู่ในตัวอยู่แล้ว ส่วนตัวรางนั้น สามารถเลือกรางได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นรางซ่อน (มองไม่เห็นตัวราง) หรือเป็นรางโชว์ ซึ่งมีหลากหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบไม้ แบบโลหะแวววาว และแบบด้าน ตามแต่คนชอบ
...............................................................................
ม่านตาไก่รางโชว์
ม่านตาไก่ (Eyelet Curtain) เป็นม่านที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน เนื่องจากแบบม่านตาไก่นั้น ให้ความรู้สึกทันสมัย ดูเรียบๆ สะอาดตา โดยการใส่ห่วงตาไก่ลงบนหัวของผ้า และร้อยเข้ากับราง ซึ่งชนิดของห่วงตาไก่และราง จะให้ความรู้สึกแตกต่างกันไป เช่นห่วงและรางเป็นไม้สัก จะให้ความรู้สึกธรรมชาติ, ห่วงและรางแบบโลหะแวววาว จะให้ความรู้สึกทันสมัย (Modern), ห่วงและรางแบบโลหะด้าน จะให้ความรู้สึกแข็งแรงและคลาสสิค เช่น Antique เป็นต้น และตัวของผ้าเอง มักจะมีการเล่นลวดลายเพิ่มลงไป เช่นการกุ๊นขอบเป็นสีหรือลวดลาย เพื่อให้ไม่ดูเรียบจนเกินไป ซึ่งอันนี้ต้องแล้วแต่คนอยู่ว่าชอบแบบไหน
หลังจากที่ได้รู้จักม่านจีบและม่านตาไก่แบบลงลึกกันไปแล้วนั้น น่าจะทำให้ได้ไอเดียมากขึ้น ว่าห้องของเรานั้นควรจะใช้ผ้าม่านแบบไหนดี จึงจะเหมาะกับแนวของห้องและความต้องการของเรา หวังว่าเพื่อนๆคงได้แบบผ้าม่าน ไปแต่งห้องสวยๆกันนะค่ะ
ส่วนใครที่สนใจเรื่องการเล่นลายบนผ้าม่านนั้น ต้องติดตามต่อกับบทความหน้า กับวิจิตรรัตน์ รอบรู้เรื่องม่านนะค่ะ แล้วเจอกันค่ะ
ความแตกต่างระหว่างม่านตาไก่กับม่านจีบ
*** เนื้อหานี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางร้านวิจิตรรัตน์ม่าน หากต้องการนำไปใช้กรุณาอย่าลืมให้เครดิตลิ้งก์กลับมาที่เว็บไซต์ด้วย ขอบคุณค่ะ ***
เปรียบเทียบ Sunscreen / Dimout / Blackout
หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินคำถามที่ว่า "คุณอยากได้ม่านแบบไหนหล่ะ Sunscreen/Dimout/Blackout?" และ อาจจะเกิดความสงสัยว่า แล้วมันต่างกันอย่างไรหล่ะ? แล้วแบบไหนที่จะเหมาะสมกับการใช้งานของเรา
คำว่า Sunscreen, Dimout และ Blackout นั้น เป็นคำที่บอกระดับการลอดผ่านของแสง
เมื่อใช้กับผ้าม่านนั้น ก็จะหมายถึงว่า ผ้าม่านนั้นแสงสามารถลอดผ่านได้ระดับไหน?
- ผ้าม่าน Sunscreen หรือที่เรียกว่า ผ้าม่านชนิดสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้นั้น แสงสามารถลอดผ่านได้ประมาณ 50-70%
- ผ้าม่าน Dimout หรือที่เรียกว่า ผ้าม่านที่แสงผ่านได้ แสงจะสามารถลอดผ่านได้ประมาณ 30-40%
- ผ้าม่าน Blackout หรือที่เราเรียกว่า ผ้าม่านทึบแสงนั่นเอง แสงจะลอดผ่านไม่ได้เลย หรือได้ก็น้อยมากๆผ้าม่าน Sunscreen หรือที่เรียกว่า ผ้าม่านชนิดสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้นั้น แสงสามารถลอดผ่านได้ประมาณ 50-70%
ลองมาดูตัวอย่างของผ้าม่าน Sunscreen, Dimout, Blackout กันเลย ว่าเป็นอย่างไรและเหมาะกับการใช้งานแบบใด
ผ้าม่าน Sunscreen (ผ้าม่านชนิดสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้)
เนื่อง จากแสงสามารถลอดได้ 50-70% ดังนั้นการใช้งานส่วนใหญ่จะเน้นการมองวิวภายนอก แต่บังแสงแดดไว้เพียงระดับเดียวเท่านั้น เหมาะกับห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น ที่ต้องการความโปร่งโล่งสบาย และไม่เน้นความเป็นส่วนตัวมากนัก นอกจากในบ้านแล้ว ผ้าม่าน Sunscreen ยังนิยมใช้ตามร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ
ผ้าม่าน Dimout (ผ้าม่านชนิดแสงผ่านได้)
เป็น ผ้าม่านแบบที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะแสงลอดผ่านได้ 30-40% เป็นผ้าม่านที่อยู่ระดับกลางๆ คือไม่โปร่งจนเกินไป ไม่ทึบจนเกินไป เหมาะกับทุกห้องที่ต้องการบังแสง บังสายตาระดับหนึ่ง แต่ห้องยังคงสว่างอยู่ แต่ไม่จ้าจนแสบตา หากมีการเลือกใช้สีสัน ก็จะทำให้ห้องเกิดความรู้สึกที่ต่างออกไปได้ นอกจากในบ้านแล้ว ยังนิยมใช้ตามสำนักงานออฟฟิต และ โรงแรมต่างๆ
ผ้าม่าน Blackout (ผ้าม่านชนิดทึบแสง)
สำหรับ คนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมากๆ หรือไม่ต้องการให้แสงลอดผ่านเลยนั้น ผ้าม่าน Blackout หรือผ้าม่านชนิดทึบแสงนี้ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าเมื่อปิดลงมาแล้วแสงจะไม่ลอดผ่านเลย หรือถ้าจะลอดผ่านจริงๆจะเป็นรอยต่อระหว่างผ้าม่านกับหน้าต่างมากกว่า (ขึ้นอยู่กับรูปแบบผ้าม่านที่เราเลือก ถ้าอยากให้ทึบเลย เลือกทำเป็นแบบม่านตาไก่หรือม่านจีบจะดีมาก) นิยมใช้กับห้องนอนที่ต้องการนอนเต็มที่แม้จะเป็นกลางวันก็ตาม หรือจะเป็นห้องนั่งเล่น ที่ชื่นชอบในการดูหนังร่วมกันบ่อยๆ อยากได้ห้องมืดๆเพื่อให้สามารถเห็นภาพได้คมชัด หรือว่าจะเป็นห้องทำงานที่ไม่ต้องการให้แสงสะท้อนกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผ้าม่านแบบทึบแสงนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว
ผ้าม่านเหล่านี้มีให้เลือกมากกว่า 500 เฉดสี ตามความต้องการของเราเลยหล่ะค่ะ
แต่ละเฉดสีก็ยังสามารถเลือกระดับแสงส่องผ่านได้ Blackout/Dimout/Sunscreen
แล้วคุณหล่ะ..อยากได้ผ้าม่านแบบได้ Blackout , Dimout หรือ Sunscreen ดีค่ะ? :)
*** เนื้อหานี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางร้านวิจิตรรัตน์ม่าน หากต้องการนำไปใช้กรุณาอย่าลืมให้เครดิตลิ้งก์กลับมาที่เว็บไซต์ด้วย ขอบคุณค่ะ ***
ความยาวของผ้าม่าน ยาวแค่ไหนถึงจะดี?
มาพูดถึงความยาวผ้าม่านกันดีกว่า เค้าว่ากันว่าแค่ "ความยาวผ้าม่าน" ก็ให้อารมณ์ที่ต่างกันไปมากเชียวหล่ะ
ส่วนใหญ่ความยาวผ้าม่าน มีให้เลือก 4 แบบด้วยกัน
แบบที่ 1 คือ ยาวพอดีพื้น
อันนี้จะเป็นการทำผ้าม่านให้ยาวกว่าหน้าต่างจริง โดยทำให้ผ้าม่านยาวพอดีแตะพื้น หรือถ้ามีบัวก็พอดีกับบัวเลยก็ได้ ความยาวผ้าม่านแบบนี้จะช่วยให้ห้องดูสูงขึ้น ดูน่าสนใจมากขึ้น กว่าหน้าต่างปกติ ดูสง่าและสวยงามสไตล์ยุโรป
แบบที่ 2 คือ ความยาวพอดีขอบหน้าต่าง
อันนี้ความยาวจะกำลังพอดีเป๊ะกับขอบล่างของหน้าต่าง อันนี้เป็นความยาวแบบปกติ ไม่เปลืองผ้า และกำลังสวย สำหรับคนที่ชอบอะไรแบบสะอาดๆ เรียบร้อย
แบบที่ 3 คือ ความยาวแบบเลยขอบหน้าต่างมาหน่อย
ซึ่งเป็นแบบที่นิยมทำมากที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะว่า ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนและมีแสงแดดส่องค่อนข้างแรง ทำให้ต้องทำความยาวผ้าม่านลงมาจากขอบหน้าต่างประมาณ 10-15 ซม. เพื่อช่วยไม่ให้แสงลอดเข้ามาในบ้าน และความยาวที่กำลังพอดีนี้ ก็ไม่กินเนื้อผ้ามากเกินไป
แบบที่ 4 คือ ความยาวแบบกองกับพื้น
ซึ่งก็คือการทำความยาวของผ้าม่านให้ลากลงมาถึงพื้นและเลยออกมาอีกประมาณ 20 ซม. เพื่อให้ปลายผ้าม่านนั้นกองอยู่กับพื้น ให้ความรู้สึกหรูหรา โรแมนติก เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เน้นใช้ผ้าเนื้อหนาทิ้งน้ำหนัก จะดูสวยงามที่สุด
เป็นยังไงบ้างค่ะ ผ้าม่านทั้ง 4 แบบ คิดว่าแบบไหนเหมาะกับห้องของคุณมากที่สุด ลองเลือกดูนะค่ะ ^___^ (เลือกยากอยู่ แต่คนเขียนชอบแบบยาวพอดีพื้นค่ะ) อ้อ แล้วก็อย่าลืมคำนึงถึงงบประมาณด้วยนะค่ะ เพราะว่าแบบที่ยาวมาก ก็กินผ้ามากเช่นเดียวกันค่ะ
*** เนื้อหานี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางร้านวิจิตรรัตน์ม่าน หากต้องการนำไปใช้กรุณาอย่าลืมให้เครดิตลิ้งก์กลับมาที่เว็บไซต์ด้วย ขอบคุณค่ะ ***